การซื้อของในเน็ทนั้น รูปถ่ายนับว่าเป็นปัจจัยสำคัญมากๆ ที่ช่วงดึงดูดสายตาของลูกค้า ให้นิ้วโป้งหยุดไถหน้าจอ Facebook, Instagram แล้วมากดดูที่รูปของเรา ถ้ารูปถ่ายใครสวย ส่งเสริมให้ชุดเด่น นั่นเท่ากับว่าเราได้เพิ่มโอกาส เพื่อปิดการขายมากขึ้นตามไปด้วย การถ่ายรูปขายของ ก็ไม่ต่างอะไรจากการจัดหน้าร้านให้ดูดี สวยงาม มีระเบียบ ให้ลูกค้าอยากเดินเข้ามาจับจ่ายใช้สอย ดังนั้น บทความนี้แหม่มจะมาแนะนำวิธีหาพร๊อบ สำหรับถ่ายรูป จัดวางองค์ประกอบให้สวยงาม เอาไว้ดึงดูดสายตาลูกค้ากันค่ะ ^_^
บทความนี้ยาวมาก หากอ่านจนจบ ผู้อ่านจะได้อะไร ?
1. ได้แนวคิดการจัดพร๊อบถ่ายรูป แบบไม่สะเปะสะปะ
2. เทคนิคการจัดองค์ประกอบรูปเบื้องต้น ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง
หากรูปถ่ายคือการเล่าเรื่อง แล้วชุดของเรากำลังเล่าเรื่องอะไร ?
รูปถ่ายดีๆ 1 รูปแทนคำบอกเล่าได้พันล้านคำ แต่ก่อนที่จะไปหา 1 พันล้านคำนั้น เราต้องเข้าใจจริงๆ ก่อนว่า
เรากำลัง "เล่า" อะไรให้ลูกค้าฟัง ซึ่งสิ่งที่จะเล่าออกมานั้น ควรเกี่ยวข้องกับตัวสินค้า
ยกตัวอย่างเช่นชุดนี้ เป็นชุดสีพาสเทลหวานๆ ซึ่งถ้าวางถ่ายรูปที่พื้นอาจดูธรรมดาๆ แต่เมื่อมีการจัดพร๊อพที่เข้ากันลงไป ก็ยิ่งทำให้ชุดยิ่งสวยมากขึ้นไปอีก ถึงจะดูเป็นชุดแสนเรียบง่าย แต่เห็นแล้วก็รู้สึกว่าน่ารักมาก ดูคุณหนู น่าทะนุถนอม ประเด็นก็คือ แล้วเราจะเอาอะไรที่มันเกี่ยวข้องกับสินค้า ไปเล่าให้ลูกค้าฟัง
รูปนี้แหม่มถ่ายเองค่ะ เย็บเสร็จปุ๊บถ่ายเลย ผ่านแอพมือถือแต่งสีซะสด จนไม่เหลือความเป็นพาสเทล ไม่มีความหวานละมุนใดๆ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นรูปถ่ายที่ไม่ได้ส่งเสริมให้สินค้าดูดีแต่อย่างใดเลย
ถามว่าในรูปมีเรื่องราวอะไรที่เกี่ยวกับสินค้าไหม ถ้าจะเเถว่ามี มันก็ได้อยู่ค่ะ คือมีโชว์อุปกรณ์งานฝีมือแพล็มๆ ในนี้ เพื่อบอกว่า ชุดนี้ Handmade นะ เราทำเอง แต่ถามว่าดูรูปแล้วมันน่าซื้อไหม คนดูจะอยากได้หรือเปล่า ก็คิดว่าไม่ T^T
แล้วถ้าเป็นรูปช้างล่างนี้ล่ะ คิดว่าลูกค้าจะอยากซื้อไหม ?
1. จุดเด่นบนชุดของเราคืออะไร
ก่อนอื่น เราต้องรู้ก่อนว่าจุดเด่นบนชุดของเราคืออะไร อย่างชุดนี้ จุดเด่นของมันคือ "สี+โบว์" เป็นสีพาสเทลหวานๆ ดังนั้นเมื่อเรารู้แล้วว่าอะไรคือจุดเด่นบนชุด ก็ให้ดึงตรนั้นมาเป็น Key หลักในการขยายความ
2. เอาจุดเด่นบนชุด มาค้นหา "Mood & Tone"
หรือเรียกกันแบบเข้าใจง่ายว่าอารมณ์ และความรู้สึก คือเรามองเห็นความพาสเทลกับโบว์ใหญ่ๆ นี้แล้วรู้สึกยังไงบ้าง ลองเขียนเป็นคำสั้นๆ ลงบนกระดาษก็ได้ค่ะ เช่น หวาน, น่ารัก, คุณหนู, ดูหรูนิดๆ, เบาสบาย ฯลฯ คำเหล่านี้จำเป็นมากๆ เพราะจะทำให้เราจับอารมณ์ของชุดได้มากขึ้น
3. เอาคำสั้นๆ มา Imagine ให้เป็นภาพ
ยกตัวอย่างเช่น แหม่มลิสต์คำสั้นๆ จากข้อ 2 ที่โดนใจเราจริงๆ มาสัก 2-3 คำ แล้วก็ค่อยๆ แตกแต่งละคำให้ออกมาเป็นรูปภาพในหัว เช่น คำว่า คุณหนู, น่ารัก, ดูหรูนิดๆ นี่คือ 3 คำนี้ที่แหม่มเลือกมา จึงนำ 3 คำนี้มารีเสิร์ชภาพดู แล้วพอจับทั้ง 3 ภาพมารวมกัน มันก็จะเริ่มได้เรื่องราวที่เราจะเล่าในรูปภาพได้แล้ว
Story ที่แหม่มได้มาคือ ชุดนี้เนี่ยมันสีพาสเทล สีหวานๆ คนที่ใส่ก็จะได้ฟีลคุณหนูๆ นั่งจิบชาคาร์โมมายด์ในสวนยามเช้า ผ่อนลมหายใจช้าๆ หลับตาพริ้ม ฟังเสียงนกร้องในสวนอย่างมีความสุข ลองนึกภาพตามนะคะ ว่าถ้าเราได้มานั่งแบบนี้ในสวน ใส่ชุดหลวมๆ สีอ่อนๆ สักตัวนึง มันคงเป็นวันพักผ่อนที่รื่นรมย์น่าดู
4. ถอดรหัสภาพ
มื่อเราได้สตอรี่จากข้อ 3 มาแล้ว ก็ค่อยๆ มาดึงรหัสภาพทีละชิ้นกันค่ะ ว่าเราจะหาพร๊อพอะไรที่มันเข้ากัน มาจัดวางองค์ประกอบในรูป ถ้าดูจากรูปประกอบด้านบน จะมีต้นไม้ ใบไม้สีเขียว เฟอร์นิเจอร์สีขาว กาน้ำชา หรือถ้วยชามเซรามิค และดอกกุหลาบ (อันนี้แล้วแต่นะคะ ว่าใครจะดึงอะไรออกมา ไม่ปิดกั้นจินตนาการกันค่ะ)
5. ไปหาข้าวของที่ใกล้เคียงกับรหัสภาพที่ถอดออกมาได้ให้มากที่สุด
จากข้อ 4 แหม่มไปหาข้าวของด้วยงบประมาณ 95 บาท เพื่อมาถ่ายรูปดังนี้
5.1 กระดาษสา เน้นสีที่ตัดกันกับชุด ที่เลือกกระดาษษเพราะมันบางเบา ดูนุ่มนวล หากใช้กระดาษโปสเตอร์สีมันสดไป ไม่เข้าธีม ยกเว้นแต่ว่าจะมีสีพาสเทลขาย (ซื้อกระดาษมา 10 บาท)
5.2 ถ้วยชามเซรามิคขนาดเล็ก ไม่เอาใหญ่ เดี๋ยวขโมยซีนชุด
โชคดีว่าถ้วยเซารมิคเคยซื้อมาถ่ายงานลูกค้านานแล้ว ส่วนไข่มุกก็มีอยู่เเล้วเพราะจะซื้อมาทำชุด เลยจับมายำรวมกัน ไม่ได้ลงทุนเพิ่ม แต่ถ้าใครคิดว่าจะทำชุดแนวๆ คุณหนู ดูเรียบแต่หรู อยากไปซื้อมาเก็บไว้ใช้บ่อยๆ พวกจานชามเซรามิคนี่หาซื้อได้ที่จตุจักรเลยค่ะ ราคาชิ้นละไม่กี่ 10 บาท ก็ได้สวยๆ มาเป็นพร๊อพเเล้ว
5.3 กุหลาบพลาสติก จากร้านทุกอย่าง 20 บาท
สำหรับชุดนี้ แหม่มเน้นๆ เลยว่าต้องเป็นกุหลาบขาวเท่านั้น เพราะไม่งั้นสีสันที่ปรากฏบนภาพถ่ายจะเยอะ จะตีกันเกินไป เดี๋ยวมั่วเกินพอดี เพราะชุดก็ 2 สีแล้ว และกุหลาบขาวก็จะเข้ากันกับเครื่องเซรามิคสีขาว ส่งเสริมให้ดูหรูหราแบบเข้ากั๊นเข้ากันมากขึ้นไปอีก
5.5 ลูกไม้ เพิ่มความหรูหรา อ่อนหวาน เพราะตัวชุดเราเน้นเรียบๆ
ด้วยความที่ตัวชุดนั้นเรียบ เน้นไปทางน่ารัก เราจึงใช้พร๊อพมาเสริมให้ Mood & Tone ของภาพนั้นอ่อนหวานมากขึ้นได้อีก ด้วยการหาลูกไม้สีอ่อนๆ มาสัก 1 เส้น องค์ประกอบรูปจะได้เต็ม
จากนั้นก็เริ่มจัดวางเพื่อเตรียมถ่ายรูปกันได้เลยค่ะ ^^
มุม flat Lay มุมกันตาย ของมือใหม่หัดถ่าย
Flat Lay คือการจัดองค์ประกอบรูปที่เกี่ยวข้องกัน แล้วถ่ายจากมุมมองด้านบน โดยที่กล้องนั้นต้องขนาน 180 องศากบวัตถุที่ถ่าย ก็จะได้มุมแบบรูปข้างบนนี้ออกมาค่ะ ง่ายใช่ไหมล่ะ ^_^
หรือจะถ่ายซูมขึ้นมาอีกนิด กับจุดเด่นของชุด โดยที่ไม่ต้องขยับวัตถุใดๆ เลย เพียงเเค่เราเลือกมุมมองที่ต้องการจะ "สื่อสาร" หรือ "เล่า" ให้คนดูได้เห็น
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับบทความนี้ หวังว่าทุกๆ คนจะได้ประโยชน์ ได้ไอเดียไปจัดพร๊อพถ่ายชุดหมาขายกันนะคะ
Commentaires