อยากจะทำชุดหมา-แมวขาย ทำแบรนด์เสื้อผ้าสัตว์เลี้ยงเป็นของตัวเอง บอกเลยจริงๆ ว่าคนที่สำคัญสุดๆ
ที่เราจะขาดไปไม่ได้เลย นั่นก็คือ "ช่าง Pattern เสื้อผ้าสัตว์เลี้ยง" ที่จะคอยแกะแบบเสื้อผ้า ตีแบบเสื้อผ้าต่อจากดีไซน์เนอร์ หรือจากตัวเรานี่แหละที่เป็นเจ้าของแบรนด์
🐶🐱 บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับอาชีพนี้แบบละเอียด ว่าอาชีพช่าง Pattern เสื้อผ้าสัตว์เลี้ยง
- ทำหน้าที่อะไร ?
- ใครบ้างที่ต้องการตัวช่าง Pattern เสื้อผ้าสัตว์เลี้ยง ?
- มีรายได้เท่าไร ?
- ถ้าอยากเป็นต้องเริ่มต้นยังไง ?
- ลงทุนเท่าไรบ้าง ??
- ปัญหาที่มักพบเจอบ่อยๆ ในสายอาชีพ ?
ช่าง Pattern เสื้อผ้าสัตว์เลี้ยง ทำหน้าที่อะไร ?
เราทราบกันดีอยู่เเล้วว่า หากจะตัดเย็บเสื้อผ้าสัตว์เลี้ยงขึ้นมา เราต้องมี Pattern ก่อน ถึงจะเอามาตัดได้ แม้ว่าการดาวน์โหลด หรือซื้อหาแพทเทิร์นตามอินเตอร์เน็ทจะสะดวกและง่าย นำมาใช้ได้ทันที แต่เราก็จะได้มาเฉพาะแบบสำเร็จรูป ไม่เข้าใจ "กระบวนการคิด+สร้าง" แพทเทิร์นนั้นๆ ขึ้นมา
ช่าง Pattern จึงเป็นอาชีพที่ "เข้าใจ" กระบวนการคิด+สร้าง เสื้อผ้าตัวนั้นๆ ขึ้นมา
หากโลกของแฟชั่น Designer คือบุคคลที่ประสบความสำเร็จอยู่เบื้องหน้า ช่าง Pattern ก็คือคนเบื้องหลังที่สำคัญ ในการสร้างสรรค์เสื้อผ้าที่สวยงามขึ้นมา เพราะช่าง Pattern ต้องรับไม้ต่อจาก Designer ในการทำงาน
งานสำคัญๆ ของช่าง Pattern เสื้อผ้าสัตว์เลี้ยง ได้แก่
1. การตีแบบ : เมื่อได้รับงานมาจาก Designer แล้ว ซึ่งมักจะมาในลักษณะของ Flat Pattern เพื่อมาคิดคำนวณ จากรูปภาพให้เป็นแพทเทิร์นเสื้อผ้าทีละชิ้นๆ
สร้างสรรค์งานไอเดียของ Designer ที่อยู่บนกระดาษให้กลายเป็นชุดจริงๆ ได้เหมือนเสกมนตร์ หรือเพียงแค่เห็นภาพตัวอย่างชุด ช่าง Pattern ก็จะสามารถแกะแบบออกมาได้อย่างชำนาญ
2. การวางมาร์ค : การกำหนดตำแหน่งที่แน่นอนในการตัดผ้า ขั้นตอนนี้สำคัญมากเช่นกัน เพราะจะทำให้บริหารจัดการผ้าได้อย่างเต็มที่ ลดการตัดผ้าเหลือเศษโดยไม่จำป็น เอาง่ายๆ ว่า ขั้นตอนนี้คือการวางแพทเทิร์นอย่างไร ให้ตัดผ้าได้คุ้มค่ามากที่สุดนั่นเอง
3.ออกแบบการเย็บ : อย่างเพิ่งด่วนดีใจว่า เย่! ฉันจะเป็นช่าง Pattern ไม่ต้องรู้เรื่องการเย็บผ้าก็ได้ โนววววว!! เข้าใจผิดอย่างแรงค่ะ ในการออกแบบแพทเทิร์น การคิดถึงวิธีการเย็บในส่วนต่างๆ ในหัวตามไปด้วย จะทำให้เราคำนวณแบบและขอบเผื่อเย็บมาเป็นอย่างดี ไม่มีพลาดตอนเย็บ
จะเห็นได้ว่า ถึงจะเป็นช่าง Pattern ก็ต้องเข้าใจวิธีการเย็บด้วย อาจจะไม่ต้องเท่าช่างเย็บฝีมือจัดจ้าน แต่ว่าต้องรู้เเละเข้าใจขั้นตอนการเย็บเสื้อผ้า เพราะทุกอย่างสัมพันธ์กันหมดค่ะ
ใครบ้างที่ต้องการตัวช่าง Pattern เสื้อผ้าสัตว์เลี้ยง
1. เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะคนที่มีแบรนด์แล้ว หรือคนที่มีฝัน ยังไม่มีแบรนด์ คนกลุ่มนี้ต้องการช่าง Pattern เพื่อมาตีแบบ แกะแบบแพทเทิร์นให้กับตัวเองเป็นอย่างมาก
2. Pet Fashion Designer จริงอยู่ว่า Designer เสื้อผ้าทั่วๆ ไปในบ้านเรามีเยอะเเล้ว แต่คนที่มีความสนใจเฉพาะทาง อย่างการออกแบบเสื้อผ้าสัตว์เลี้ยงนั้นมีอยู่จำนวนหนึ่งในบ้านเราค่ะ อย่างน้อยๆ ก็นักเรียนที่มาเรียนกับ Dogsbydoo นี่แหละ ที่เริ่มรับงานออกแบบเสื้อผ้ากันไปหลายคนแล้ว
2 กลุ่มนี้ต้องการช่าง Pattern มาร่วมงานด้วยอย่างแน่นอน บอกเลยว่าถ้าใครที่สนใจเส้นทางเฉพาะสายนี้ รับรองว่าเนื้อหอมอย่างแน่นอนค่ะ เพราะคนทำจริงจังนั้นมีน้อยมากๆ
ช่าง Pattern เสื้อผ้าสัตว์เลี้ยง มีรายได้เท่าไร คิดค่าทำแบบอย่างไร ?
จะหันมาทำอาชีพนี้ทั้งที มันก็ต้องรู้ราคาตลาดกันหน่อย จะได้คำนวณเส้นทางการเงินได้ถูก
1. สร้างแบบ Pattern : ราคาจะเริ่มตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป สำหรับแบบเสื้อผ้ามาตรฐานที่ไม่ได้ต่อเติมอะไรเลย เช่น เสื้อแขนกุด กระโปรง หากเป็นเสื้อเชิ้ต, เสื้อมีแขน, มีปก, แขนระบาย, เเขนยาว, ขายาว, ปิดเกร็ด ฯลฯ ดีเทลต่างๆ ที่ต้องสร้างแบบเพิ่มขึ้นมา ราคาก็จะบวกไปอีก ตั้งแต่ 600-1,500 บาท ตามความยากง่าย และรายละเอียดของงาน
2. ค่าเกรดไซส์ : ก่อนอื่นอธิบายเล็กน้อยค่ะ ว่าการเกรดไซส์ ก็คือการขยายแบบแพทเทิร์น ให้เล็กลงหรือใหญ่ขึ้น ไปเป็นอีกขนาด เช่น จากเบอร์ S เป็นเบอร์ M, จากเบอร์ M เป็นเบอร์ L เป็นต้น
ซึ่งค่าเกรดไซส์นี้ จะมีราคาตั้งแต่ 100-300 บาท ตามแต่ความยากง่าย และรายละเอียดของงาน
3. ค่าขึ้นตัวอย่าง : หลังจากที่ได้ทำการสร้าง Pattern และตัดผ้าไปเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีการขึ้นงานตัวอย่างให้ลูกค้า 1 ชุด เพื่อดูว่าโอเคหรือยัง มีอะไรต้องแก้ไขไหม ถ้ายังเราก็วนกลับไปสู่การเเก้ไขแบบตัดใหม่อีกครั้ง แต่ถ้าโอเคแล้ว ลูกค้าก็จะนำงานทั้งหมด เตรียมเข้าสู่กระบวนการถัดไปในการผลิต ค่าขึ้นแบบก็ราวๆ 300-500 บาท ตามแต่ความยากง่าย และรายละเอียดของงานอีกเช่นเคย
ถ้ามีคนมาจ้างทำ Pattern เสื้อผ้าสัตว์เลี้ยง ช่างจะมีรายได้เท่าไร ?
เมื่อมีคนมาจ้างให้เราสร้างแพทเทิร์น เสื้อผ้าสัตว์เลี้ยง 1 ชุด สมมติว่าเป็นชุดเดรสแบบมาตรฐาน เบสิคๆ
จะคิดรายได้ออกมาได้ตามนี้
- สร้างแบบตัด 500 บาท
- ค่าขึ้นตัวอย่าง 300 บาท
ตอนนี้จะรวมรายรับอยู่ที่ 800 บาท (แพทเทิร์น 1 ไซส์ และตัวอย่าง 1 ชุด)
และเมื่องานทุกอย่างดีลกันโอเคกับผู้ว่าจ้างเรียบร้อยแล้ว ก็จะเข้าสู่งานเกรดไซส์ค่ะ เพราะชุดหมาจะนิยมตัดกันที่แบบละ 5 ไซส์โดยประมาณ ก็บวกเพิ่มไปอีกไซส์ละ 100 บาท (ราคาขั้นต่ำ) จึงคิดราคาเพิ่มอีก 400 บาท (จากเหตุการณ์สมมติ ลูกค้าสั่ง 5 ไซส์ ที่หายไป 100 บาท คือแบบตัดแรกที่สร้างค่ะ ไม่นับ)
ดังนั้น รายรับเบื้องต้นของช่าง Pattern เมื่อมีลูกค้ามาสั่งงานในแบบมาตรฐานง่ายๆ 1 แบบ
"ค่าสร้างแบบตัด 500 + ค่าขึ้นตัวอย่าง 300 + ค่าเกรดไซส์ 400 = 1,200 บาท"
ถ้าได้รับโจทย์ที่ยาก งานดีเทลเยอะ ราคาก็จะเพิ่มขึ้นไปอีก
**หมายเหตุ ขนาดชุดหมาถ้าวัดจาก Size Chart ของ Dogsbydoo จะมีทั้งหมด 11 ขนาด และแมวอีก 4 ขนาด
อยากทำอาชีพช่าง Pattern เสื้อผ้าสัตว์เลี้ยง ต้องเริ่มต้นอย่างไร ?
ขึ้นว่าอาชีพ"ช่าง"ย่อมต้องเกิดขึ้นจากการศึกษาและฝึกฝนจนชำนาญ ดังนั้นไม่ว่าทักษะอะไรก็ตามที่ขึ้นชื่อว่าต้องฝึกจึงจะเก่ง เราก็สามารถฝึกได้ทั้งสิ้น และไม่มีคำว่าช้าเกินไปที่จะเริ่มต้น
ถ้าอยากเป็นช่าง Pattern เสื้อผ้าสัตว์เลี้ยงต้องเรียนรู้เรื่องอะไรบ้าง ?
เข้าใจการวัดตัว และสัตว์ส่วนของตัวแบบ (ในที่นี้คือสัตว์เลี้ยง)
ทำความรู้จักรูปแบบ รูปทรงของเสื้อผ้า
การคำนวณสูตร ตามแบบของเสื้อผ้าทรงต่างๆ
การวาดแบบ Pattern จากสูตรที่คำนวณ
การเย็บผ้า เพื่อใช้ในการวาดแบบเผื่อตัด
ฯลฯ
ถามว่าทั้งหมดนี้ เราสามารถไปลงเรียนคร์อสที่สอน Pattern ชุดคน แล้วเอามาประยุกต์ใช้ได้ไหม
ตอบเลยว่าได้ค่ะ เพราะทรงเสื้อผ้าสุนัข-แมว ฯลฯ สูตรคำนวณต่างๆ ก็ใช้หลักเดียวกับของคน เพียงแต่เราเอามาปรับใช้ให้เข้ากับสัดส่วนของสัตว์เลี้ยงสายพันธุ์ต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อเอามาปรับใช้กับสัตวเลี้ยง การเข้าใจสัดส่วนต่างๆ ของสัตว์เสียงแต่ละสายพันธุ์นั้นสำคัญมากๆ
เอาแค่เฉพาะสุนัข ก็มีหลากหลายสัดส่วนแล้ว ทั้งพันธุ์ที่ลำตัวตัน อ้วนสั้น, พันธุ์ที่ลำตัวเล็กและยาว, พันธุ์ที่ช่วงอกใหญ่ เอวคอด, พันธุ์ที่ขาสั้น ฯลฯ ซึ่งความหลากหลายต่างๆ นี้ หลักสูตรของคนนั้นไม่มีสอน ถ้าเรียนในหลักสูตรของคน เราก็ต้องรีเสิร์ชข้อมูลเพิ่มเองอีกมากเพื่อรวบรวมข้อมูลตรงนี้
จะเริ่มต้นอาชีพช่างแพทเทิร์น เสื้อผ้าสัตว์เลี้ยงต้องลงทุนเท่าไร ?
ต้นทุนเป็นเงินนั้น ไม่มากเท่าต้นทุนของเวลาค่ะ เพราะค่าคร์อสในการเรียนเพียง 4,000 บาท ซึ่งเป็นการลงทุนความรู้ที่สามารถนำไปต่อยอดได้ไม่สิ้นสุด
ช่องทางการสมัครเรียน เขียนแพทเทิร์นเสื้อผ้าสัตว์เลี้ยง
🐶🐱 หากสนใจสมัครเรียนเพื่อต่อยอดอาชีพ สามารถสมัครได้ที่
Link : https://www.dogby-doo.com/product-page/pet-pattern-online
พิเศษ : รหัสโปรโมชั่น สำหรับผู้ที่อ่าน Blog นี้ ลดอีก 500 บาท
เพียงใส่รหัสโปรโมชั่น : readblog707
แต่ถ้าเป็นเงินลงทุนในด้านอุปกรณ์ ก็จะเป็นพวกไม้โค้งนกแก้ว ไม้วัดรูปแบบต่างๆ สายวัดตัว ฯลฯ เสียมากกว่า ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ราคาต่อชิ้นมีตั้งแต่หลัก 10 ไปจนถึงหลักร้อยให้ได้เลือกซื้อหา แต่โดยพฤติกรรมส่วนใหญ่แล้ว หลายๆ คนมักจะค่อยๆ หาซื้อมาให้ตรงกับการใช้งานเป็นคราวๆ ไป แล้วก็ค่อยๆ มีอุปกรณ์มากขึ้นเรื่อยๆ เอง
สิ่งที่สำคัญที่สุดของการจะเป็น "ช่าง Pattern เสื้อผ้าสัตว์เลี้ยง" ไม่ใช่สิ่งของหรืออุปกรณ์ แต่เป็นการลงทุนในความรู้ให้กับตัวเอง และฝึกฝน สะสมประสบการณ์ต่างหาก ดังนั้นให้เรียนรู้จากคร์อสต่างๆ อ่านหนังสือที่เกี่ยวกับการทำแพทเทิร์นให้มาก และที่สำคัญคือลงมือทำเยอะๆ
หากสร้าง Pattern เป็นแล้ว จะเริ่มรับงานเองได้อย่างไร ?
การทำแพทเทิร์นเสื้อผ้าสัตว์เลี้ยงนั้น ถือเป็นกลุ่มตลาดเฉพาะ (Nich Market) แต่ก็มีความต้องการสูง หากใครสนใจที่จะทำอาชีพในสายนี้ การเริ่มต้นรับงานเอง หรือการหาลูกค้านั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย เพราะด้วยพลังของโลกโซเชียล สามารถทำให้เราสร้างตัวตนเพื่อให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มตลาดได้อย่างไม่อยากเย็น
1. เปิด Facebook Page เพื่อรับงานสร้างแพทเทิร์นเสื้อผ้าสัตว์เลี้ยงของตนเอง ถามว่าจะมีมีลูกค้าเข้ามาไหม อันนี้จะเป็นเรื่องของการทำตลาดและโฆษณาบนเฟซบุ๊คแล้ว แต่เรื่องนี้ไม่ยากค่ะ ขนาดเพจของแหม่ม ยังใช้การหาลูกค้าจากในเฟซบุ๊คเป็นหลักเลย
2. เปิดร้านค้าออนไลน์ เพื่อจำหน่ายแพทเทิร์น หรือจำหน่ายแพทเทิร์นสำเร็จรูป ข้อนี้ต้องเพิ่มทักษะในการเรียนรู้จักการใช้งานเว็บไซต์สำเร็จรูปแบบต่างๆ ซึ่งง่ายค่ะ ไม่ยากเลย หรือถ้าเราไม่สะดวกก็มีบริการทำเว็บตกแต่งร้านมากมายให้เลือกใช้
3. ขายผลงานกับเว็บไซต์ต่างประเทศ ซึ่งมีแหล่งให้เราเข้าไปลงขายมากมาย ที่นิยมสุดก็หนีไม่พ้น https://www.etsy.com/ ค่ะ คนทั่วโลกหันมาขายแพทเทิร์นกันในนี้เยอะมากๆ แม้กระทั่งเสื้อผ้าสุนัข ถ้าคิดจะลงตลาดนี้ เราจะได้ราคาที่สมน้ำสมเนื้อ แต่ก็ต้องสร้างสรรค์แบบใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆเพราะคู่เเข่งเรานั้นเป็นคนมีฝีมือจากทั่วโลกเลย
จะเห็นได้ว่าทุกช่องทางนั้น แหม่มแนะนำให้เริ่มต้นด้วยการสร้าง Shop ของเราในโลกออนไลน์ขึ้นมาก่อน ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้ง่าย และทุกวันนี้ไม่ว่าใคร แบรนด์เล็กๆ หรือแบรนด์ดังระดับโลก ต่างก็ใช้ช่องทาง Online ด้วยกันทั้งนั้น เป็นช่องทางที่เริ่มต้นสร้างได้ด้วยสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว ซึ่งทุกวันนี้ใครๆ ก็มีเจ้าสิ่งนี้กันทั้งนั้น
อยากเป็นช่าง Pattern ต้องรู้จักความรู้สึก-ความต้องการ ทางฝั่งลูกค้าด้วย
ไม่ใช่ว่าแหม่มจะโปรยซะสวยหรูแต่ในมุมรายรับและการทำงานของช่าง Pattern ให้ฟังอย่างเดียว บทความนี้แหม่มตั้งใจเขียนมากๆ เพื่อลงลึก (ในระดับเเรกสำหรับคนที่สนใจ)
จากที่แหม่มได้สัมผัสมาด้วยตนเอง และจากการที่ได้พูดคุย ปรึกษากับลูกค้าที่มาเรียนตัดชุดหมาและกำลังสร้างแบรนด์ของตัวเอง จะเจอปัญหาเรื่องช่างแพทเทิร์นหลายรูปแบบ
จึงขอเก็บมาเล่าให้ฟัง ว่าฝั่งคนเป็นลูกค้า เขาเจอปัญหาอะไรบ้าง และต้องการได้รับการแก้ไขอย่างไรจากฝั่งของช่างแพทเทิร์นเสื้อผ้าสัตว์เลี้ยง
ปัญหาของฝั่งลูกค้า ::: ไปจ้างช่างขึ้น Pattern แต่ได้งานที่ไม่แตกต่างจากท้องตลาด
มุมมองของ Dogby-doo! ::: เพราะช่างขึ้น Pattern ชุดสัตว์เลี้ยงในบ้านเรามีแบบนับหัวได้เลย และส่วนมากก็ทำแบรนด์ชุดของตัวเองขายด้วย โดยที่แบบ Pattern ส่วนใหญ่จะซ้ำเดิมกันมาก คือนิยมทำชุดเดรสคอบัว เเขนกุด และเสื้อเชิ้ตออกมาขาย มีกางเกงน้องหมาบ้างประปราย
สรุปคือ ไปจ้างเขาแต่ได้งานแบบที่ไม่แตกต่าง ไม่ฉีกออกไปจากท้องตลาดเลย มีผลทำให้ขายยาก เพราะเปิดเพจ เปิดไอจี หรือหาซื้อตามหน้าร้าน แบบเสื้อผ้าก็ซ้ำๆ ไม่โดดเด่น ทำให้ลูกค้าต้องไปพึ่งการใช้ลวดลายของผ้าแทน เพื่อให้ลายไม่ซ้ำกับร้านอื่นที่ขายแพทเทิร์นเดียวกัน แล้วก็ส่งผลในราคาของเสื้อผ้าสุนัขต่ำลง เพราะทุกร้านแทบไม่ต่างกัน แย่งกันขาย และใช้การตัดราคา ลดราคาแข่งกันเพื่อดึงลูกค้า จะเห็นได้ว่าความคิดสร้างสรรค์ของช่างแพทเทิร์นนั้น ส่งผลกระทบต่อตลาดในวงกว้างด้วย
คำแนะนำ เพื่อแก้ปัญหาให้ลูกค้า ::: ช่างเองต้องขยันครีเอทแบบชุดใหม่ๆ ออกมาป้อนลูกค้า ทำให้ผลงานของลูกค้าแตกต่างออกไปจากท้องตลาด ซึ่งก็มีผลดีกับทั้งฝั่งลูกค้า และฝั่งของช่างเองด้วย คือช่างจะมี Portfolio ใหม่ๆ ดีไซน์ใหม่ๆ เพิ่มมาขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งคิดสิ่งใหม่ๆ ออกมาป้อนสู่ตลาดมากเท่าไร เรายิ่งเก่ง ยิ่งเป็นที่ต้องการของลูกค้ามากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว
ปัญหาของฝั่งลูกค้า ::: ถูกช่าง Pattern เอาแบบที่สั่งไปขายต่อให้คนอื่นๆ อีก
มุมมองของฝั่ง Dogsbydoo ::: ในมุมตรงกลาง แหม่มก็เข้าใจนะ ว่าคนเราล้วนต้องกินต้องใช้ และการทำ Pattern นั้น ทำออกมาทีเดียว ของมันใช้ได้ตลอด เราก็อยากขายในปริมาณที่มากขึ้น เพราะอย่างไรเสีย ถึงจะใช้ Pattern เหมือนกัน แต่การเลือกใช้ผ้า วัสดุ และของตกแต่งไม่เหมือนกัน แบบชุดที่ขายมันก็ออกมาไม่เหมือนกันอยู่เเล้ว
แต่กับลูกค้าที่เจอเหตุการณ์แบบนี้เข้าไปก็เสียความรู้สึก และอาจไม่กลับมาใช้บริการเราอีก ในเมื่อเราเสียลูกค้าเก่าไป เท่ากับว่าเราต้องคอยวิ่งหาลูกค้าใหม่ตลอด ถ้าวังวนนี้ไม่จบสิ้นเพราะเราไม่เเคร์ลูกค้า อาจจะทำให้เราหาลูกค้ายากขึ้น ไปจนถึงไม่มีลูกค้าเลย อีกทั้งต้นทุนในการหาลูกค้าใหม่นั้นสูงกว่าลูกค้าเก่า รักษาลูกค้าเก่าให้กลับมาซื้อซ้ำดีกว่าค่ะ
คำแนะนำ เพื่อแก้ปัญหาให้ลูกค้า ::: ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจเองก่อน แล้วจึงบอกต่อให้ลูกค้าเข้าใจว่า แบบเสื้อผ้านั้นมันจะมีแบบมาตรฐานของมันอยู่ ได้แก่ เสื้อเชิ้ต ชุดเดรส กางเกง เสื้อแขนยาว ฯลฯ ซึ่งแบบมาตรฐานเหล่านี้ แม้ว่าจะเป็นเสื้อผ้าคนก็มีหลายแบรนด์ที่ทำออกมาจำหน่ายในท้องตลาด แต่เขาจะแตกต่างกันออกไปในเรื่องของสไตล์ และวัตถุดิบในการใช้ตัดเย็บ
ในการทำชุดหมาก็เช่นกัน แบบมาตรฐานเหล่านี้ก็เหมือนเป็นชุดเบสิค มีโอกาสที่จะเหมือนกับร้านอื่นๆ ได้ แต่ถ้าหากลูกค้าต้องการความแตกต่าง ก็จะเป็นการออกแบบ Pattern ขึ้นมาใหม่ที่สวยงามขึ้น แตกต่างจากท้องตลาด และแน่นอนว่าเมื่อแบบมีความยากและรายละเอียดเพิ่มขึ้นมา ค่าใช้จ่ายก็จะเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งจุดนี้ลูกค้าส่วนใหญ่จะเข้าใจและยอมรับได้
เมื่อช่างได้ทำการออกแบบ Pattern ใหม่ขึ้นมาให้ลูกค้า ก็ควรทำข้อตกลงเพิ่มแก่กันและกัน ว่าแบบนี้เราจะไม่ขายต่อคนอื่น เพราะถือเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ว่าจ้างคนนี้แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งแน่นอนว่าจุดนี้ เพื่ออะไรที่แตกต่าง
และเป็นของลูกค้าเพียงแค่คนเดียว เราจะไม่สามารถขายในราคาปกติแบบชุดเบสิคได้ ราคาต้องเพิ่มตาม
ซึ่งเรื่องราคานั้นไม่น่าจะเป็นปัญหากับลูกค้าที่ต้องการความเป็น"ของฉันคนเดียว" เลย แถมลูกค้าจะรู้สึกดีเสียด้วยซ้ำที่ผลงานนี้เป็นของเขาคนเดียว ทำให้รู้สึกไว้วางใจ และอยากใช้บริการซ้ำในภายหลังอีกด้วย
ปัญหาของฝั่งลูกค้า ::: จ้างออกแบบ แล้วพบว่าช่างเอา Pattern ที่จ้างทำไปตัดขายเอง
มุมมองของฝั่ง Dogsbydoo ::: เรื่องนี้ว่าด้วยจรรยาบรรณของช่าง และความไว้วางใจของลูกค้าล้วนๆ ค่ะ
คำแนะนำ เพื่อแก้ปัญหาให้ลูกค้า ::: ตัวช่างเองต้องหนักแน่นมากๆ ที่จะไม่เอาผลงานเก่าไป Copy ขายซ้ำไม่ว่าจะด้วยการขายตัวแบบเลย หรือการผลิตเสื้อผ้าขึ้นมาด้วยแบบนั้น เพราะอย่างที่ย้ำกันเสมอว่า ความไว้วางใจจากลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้าเราไม่มีลูกค้า เราก็ไม่มีรายได้
แต่ถ้าตัวช่างเองก็อยากจะขยับมาทำแบรนด์เสื้อผ้าสัตว์เลี้ยงขาย ก็ต้องแยกออกมาให้ชัดเจนว่าผลงานนี้ที่เราทำขึ้นมาใหม่ จะไม่มีการเอางานเก่าลูกค้ามาใช้ จะเป็นผลงานใหม่ๆ ของเราที่ตัวเราเองก็ไม่ขายตัวแบบให้คนอื่นๆ เช่นกัน
แบนี้ก็ลงตัว สบายใจทั้งฝั่งเราที่ทำเสื้อผ้าขายด้วย และฝั่งลูกค้าที่มาใช้บริการสร้าง Pattern จากเราด้วย
ชื่อเสียงและลูกค้า ต้องใช้เวลาในการสะสม แต่การทำลายลงนั้นเร็วกว่ากระพริบตาเสียอีก
ทั้งหมดทั้งมวลที่แหม่มตั้งใจเขียนลงในบทความนี้ เพื่อต้องการให้เป็นแนวทางในการวางแผน สร้างอาชีพให้แก่ผู้อ่านทุกๆ คนที่เข้ามาติดตามเพจ หรือ Blog
ทุกๆ เนื้อหาจึงลงดีเทลลึก พอลงลึกมันก็เขียนออกมาเยอะ เพราะอยากให้ได้เนื้อหา สาระความรู้กันแบบเต็มๆ ขอฝากติดตาม Blog นี้ด้วยอีกช่องทางหนึ่งนะคะ เพราะจะคอยมาเขียนบทความดีๆ และมีประโยชน์กับผู้ที่สนใจทำอาชีพเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงบ่อยๆ ค่ะ
🐶🐱 เราแนะนำคุณแล้ว คราวนี้ถึงทีคุณบ้าง
1. หากอ่าน Content นี้แล้วรู้สึกอยากลองเขียน Pattern เสื้อผ้าสัตว์เลี้ยงบ้าง แต่ยังไม่แน่ใจว่าชอบไหม ลองเริ่มต้นด้วยการฝึกเขียน Pattern เสื้อผาสัตว์เลี้ยงง่ายๆ (ไม่มีค่าใช้จ่าย) ตาม Live นี้ดูนะคะ
2. หรือหากต้องการสมัครเรียน เขียนแพทเทิร์นเสื้อผ้าสัตว์เลี้ยง สามารถสมัครได้ที่
Link : https://www.dogby-doo.com/product-page/pet-pattern-online
พิเศษ : รหัสโปรโมชั่น สำหรับผู้ที่อ่าน Blog นี้ ลดอีก 500 บาท
เพียงใส่รหัสโปรโมชั่น : readblog707
อย่าปล่อยให้ความตั้งใจนั้นหายไป เพียงแค่เรายังไม่เคยทำหรือมีพื้นความรู้ เพราะทุกอย่างในโลกนี้นั้นล้วนฝึกได้ค่ะ 😊
Comments